เสือมังกรคืออะไร?
เกมไพ่เสือมังกร (Dragon Tiger) เป็นเกมที่ได้รับการปรับแต่งมาจากเกมไพ่บาคาร่าโดยการเน้นความง่ายของกติกาและความเข้าใจง่ายของเกมเอง โดยปกติแล้วเกมไพ่บาคาร่าถือเป็นหนึ่งในเกมไพ่ที่นิยมเล่นมากที่สุด แต่ด้วยกติกาที่ซับซ้อนและระยะเวลาในการเล่นที่ค่อนข้างยาวนานในแต่ละรอบ จึงเกิดความต้องการในการคิดค้นเกมไพ่ที่มีรูปแบบและกติกาการเล่นที่ง่ายขึ้น ซึ่งเกม “เสือมังกร” ก็เป็นผลลัพธ์จากนั้น
เสือมังกรเป็นเกมไพ่ที่มีความง่ายในการเล่น เพียงแค่คนเดียวแจกไพ่ให้กับฝั่งเสือและฝั่งมังกร แล้วให้ผู้เล่นทายว่าฝั่งไหนจะได้แต้มสูงกว่า โดยในเกมนี้ใช้ไพ่ใบเดียวในการเล่น และการนับแต้มจะใช้ตามไพ่ใบเดียวที่แจกให้โดยเจ้ามือ ไม่มีการเพิ่มหรือแจกไพ่ใหม่ตามกลุ่มเหมือนกับเกมบาคาร่าหรือป๊อกเด้ง ซึ่งผู้เล่นไม่ต้องรวมแต้มให้ซับซ้อนหรือยุ่งยาก ด้วยเหตุนี้วิธีและกติกาการเล่นเกมไพ่เสือมังกรนั้นง่ายมากยิ่งขึ้น
เริ่มต้นของเสือมังกร ยังไม่ทราบแน่ชัดเรื่องต้นกำเนิดของเกมไพ่เสือมังกร แต่มีข้อมูลที่แพร่หลายว่าเกมนี้มีรากฐานจากประเทศกัมพูชา และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทยจากแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงาน ซึ่งต้นตำรับของเกมไพ่เสือมังกรใช้ไพ่สำรับเดียวเท่านั้น แต่ในปัจจุบันได้มีการปรับแต่งโดยการใช้ไพ่หลายสำรับเพื่อเพิ่มความสนุกและความหลากหลายให้กับเกม
วิธีเล่นเกมไพ่เสือมังกร ในเกมไพ่เสือมังกร การนับแต้มจะเรียงตามไพ่ที่มีมูลค่าใหญ่ไปน้อย โดยมีรายละเอียดการนับแต้มดังนี้:
- ไพ่เลข 2-9: นับตามจำนวนแต้มบนไพ่ (ตัวเลข 2 = 2 แต้ม, ตัวเลข 3 = 3 แต้ม, ตัวเลข 4 = 4 แต้ม, … , ตัวเลข 9 = 9 แต้ม)
- ไพ่หน้าไพ่ (Ace, J, Q, K): มีค่าเป็น 1 แต้ม
เมื่อไพ่แจกแล้ว ผู้เล่นต้องทายว่าฝั่งไหน (เสือหรือมังกร) จะได้แต้มสูงกว่า โดยใส่เงินเดิมพันในฝั่งที่เลือก เมื่อเวลาเดิมพันหมดกำหนด เจ้ามือจะเปิดไพ่และเปรียบเทียบคะแนนระหว่างฝั่งเสือและมังกร ฝั่งที่ได้แต้มสูงกว่าจะเป็นฝั่งชนะ ผู้เล่นที่เดิมพันในฝั่งชนะจะได้รับเงินรางวัลตามอัตราการจ่ายเงินที่กำหนดไว้ (หัวฟ้าที่ชนะจ่ายเงิน 1:1 แต่หัวเมฆที่ชนะจ่ายเงิน 1:0.95 ส่วนเสมอจ่ายเงิน 1:8)
เกมไพ่เสือมังกรเป็นเกมที่มีกติกาง่ายและเข้าใจง่าย ทำให้เป็นที่นิยมในปัจจุบันเนื่องจากเสียงตอบรับที่ดีจากผู้เล่นทั่วโลก ถ้าคุณสนใจลองเล่นเกมนี้ อย่าลืมตรวจสอบกติกาและกฎของเว็บไซต์หรือสถานที่ที่คุณเล่นเพื่อเข้าใจเกมและเพลิดเพลินไปกับการเสี่ยงโชคกับเสือมังกร!
อัตราจ่ายเสือมังกร
เดิมพัน | อัตราจ่าย |
---|---|
มังกร (หากเปิดไพ่แล้วเสมอ จะเสียเงินเดิมพันครึ่งหนึ่ง) | 1 : 1 |
เสือ (หากเปิดไพ่แล้วเสมอ จะเสียเงินเดิมพันครึ่งหนึ่ง) | 1 : 1 |
เสมอ (ไพ่มังกรและเสือแต้มเท่ากัน) | 1 : 8 |
มังกรดำ (โพดำหรือดอกจิก) | 1 : 0.9 |
มังกรแดง (โพแดงหรือข้าวหลามตัด) | 1 : 0.9 |
เสือดำ (โพดำหรือดอกจิก) | 1 : 0.9 |
เสือแดง (โพแดงหรือข้าวหลามตัด) | 1 : 0.9 |
มังกรคี่ (จำนวนแต้มไพ่มังกรเป็นเลขคี่) | 1 : 0.75 |
มังกรคู่ (จำนวนแต้มไพ่มังกรเป็นเลขคู่) | 1 : 1.05 |
เสือคี่ (จำนวนแต้มไพ่เสือเป็นเลขคี่) | 1 : 0.75 |
เสือคี่ (จำนวนแต้มไพ่เสือเป็นเลขคู่) | 1 : 1.05 |
มังกรใหญ่ (จำนวนแต้มไพ่มังกร คือ 7-13) | 1 : 0.75 |
มังกรเล็ก (จำนวนแต้มไพ่มังกร คือ 1-6) | 1 : 1.05 |
เสือใหญ่ (จำนวนแต้มไพ่เสือ คือ 7-13) | 1 : 0.75 |
เสือเล็ก (จำนวนแต้มไพ่เสือ คือ 1-6) | 1 : 1.05 |
คู่เลขเหมือนสีผสม (จำนวนแต้มไพ่มังกรและเสือเท่ากัน) | 1 : 5 |
คู่เลขเหมือนสีเดียวกัน (จำนวนแต้มไพ่มังกรและเสือมีจำนวนแต้มเท่ากันและมีสีเดียวกัน) | 1 : 10 |
คู่เหมือนสมบูรณ์แบบ (จำนวนแต้มไพ่มังกรและเสือมีจำนวนแต้มเท่ากันและดอกเดียวกัน) | 1 : 20 |
มังกรโพดำ (ไพ่มังกรเป็นโพดำ) | 1 : 2.7 |
มังกรโพแดง (ไพ่มังกรเป็นโพแดง) | 1 : 2.7 |
มังกรดอกจิก (ไพ่มังกรเป็นดอกจิก) | 1 : 2.7 |
มังกรข้าวหลามตัด (ไพ่มังกรเป็นข้าวหลามตัด) | 1 : 2.7 |
เสือโพดำ (ไพ่เสือเป็นโพดำ) | 1 : 2.7 |
เสือโพแดง (ไพ่เสือเป็นโพแดง) | 1 : 2.7 |
เสือดอกจิก (ไพ่เสือเป็นดอกจิก) | 1 : 2.7 |
เสือข้าวหลามตัด (ไพ่เสือเป็นข้าวหลามตัด) | 1 : 2.7 |
จุดเด่นของเกมไพ่เสือมังกร
- มีกติกาการเล่นที่ไม่ซับซ้อนและง่ายต่อการทำความเข้าใจมากกว่าเกมไพ่ชนิดอื่น เช่น ป๊อกเด้ง บาคาร่า
- ใช้เวลาในการเล่นสั้นกว่าเกมไพ่ชนิดอื่น
- ไม่ต้องรวมแต้มไพ่ สามารถรู้ผลแพ้ชนะได้ทันทีหลังเปิดไพ่
- ไม่มีการจั่วไพ่เพิ่ม ทำให้ง่ายต่อการคิดแต้ม
- มีรูปแบบการลงเดิมพันที่หลากหลายกว่าเกมไพ่อื่นๆ